ประเด็นร้อน
ใบสั่งต่ออายุ7ป.ป.ช. ไม่สนคุณสมบัติขัดรธน.
โดย ACT โพสเมื่อ Dec 19,2017
- - สำนักข่าวผู้จัดการรายวัน - -
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องการต่ออายุคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบันให้ดำรงตำแหน่งต่อหรือไม่นั้น ที่ประชุมได้อภิปรายกันมาก โดยยกข้อดี ข้อเสีย แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุป จนต้องลงมติกันตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดย กมธ.เสียงข้างมาก ที่ประกอบไปด้วยอดีตนายตำรวจ และอดีตนายทหาร ที่มีความสนิทสนมและใกล้ชิด พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้โหวตให้แก้ไขหลักการเดิมจากที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอให้รีเซต ป.ป.ช. ที่มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ ปี 60 โดย กมธ. ในส่วนของ กรธ. ได้โหวตสู้ แต่ก็แพ้ราบคาบ ทำให้กรรมการ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน จำนวน 7 คน จาก 9 คนที่มีคุณสมบัติไม่ครบตามรัฐธรรมนูญได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปอีกเป็นเวลา 9 ปี นับตั้งแต่วันที่ ป.ป.ช. แต่ละคนได้รับการแต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542
"เหตุผลที่ 7 ป.ป.ช. ได้อยู่ต่อ เพราะเป็นความต้องการของผู้มีอำนาจอยากจะให้อยู่ต่อ" แหล่งข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 7 รายชื่อกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีคุณสมบัติหมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญ ปี 60 ได้แก่
1.พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. อดีต รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เมื่อปี 2557 พ้นจากการดำรงตำแหน่งน้อยกว่า 10 ปี
2.นายปรีชา เลิศกมลมาศ เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2552 ก่อนรับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2553 และรับตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไม่ถึง 5 ปี
3.พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง เคยดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี 2553 ก่อนรับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อปี 2555 รับตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไม่ถึง 5 ปี
4.นายณรงค์ รัฐอมฤต อดีตเลขาธิการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2553 ก่อนรับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2555 รับตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการ ไม่ถึง 5 ปี
5.น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีต ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเมื่อปี 2552 ก่อนรับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2557 รับตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไม่ถึง 5 ปี 6.นายวิทยา อาคมพิทักษ์ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ในปี 2557 ก่อนรับตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2558 พ้นจากการดำรงตำแหน่งน้อยกว่า 10 ปี และ 7.พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ อดีต ผอ.สำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม เมื่อปี 2554 รับตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไม่ถึง 5 ปี
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า กมธ.ในสัดส่วนของ ป.ป.ช. ยังได้เสนอเพิ่มอำนาจให้ ป.ป.ช. สามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูล นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชนได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรสาร โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ซึ่งในส่วนของ กมธ. ในสัดส่วนของ กรธ. พยายามคัดค้านไว้ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน จนท้ายที่สุด ที่ประชุมต้องโหวตตัดสิน ผลปรากฏว่า ฝ่าย กรธ. แพ้เช่นเคย แต่ก็ได้สงวนคำแปรญัตติไว้เพื่อไปต่อสู้ วาระ 2 ในที่ประชุม สนช.วันที่ 21 ธ.ค.นี้
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน